นายกฯประยุทธ์" รับเตรียมปรับครม.เพื

นายกฯประยุทธ์" รับเตรียมปรับครม.เพื่อความเหมาะสม หลังบริหารครบ 1 ปี ลั่นไม่เอานักการเมืองร่วมรัฐบาล




27 ก.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การปรับครม.จะไม่ทำตามกระแสกดดัน และไม่มีใครสามารถมากดดันตนได้ จะทำตามวิจารณญาณของตนเอง

“การปรับครม.จะปรับเมื่อระยะเวลาที่เหมาะสม คือเมื่อทำไประยะหนึ่งแล้วต้องมีระยะต่อไป ที่ต้องต่อเนื่อง ต้องมีปรับบ้าง แต่ไม่ได้ปรับเพราะมีความผิด หรือเพราะสังคมอะไรต่าง ๆ เราทำงานด้วยหลักการ สังคมอาจจะไม่ทันใจบ้างผมก็รับฟัง” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าผลโพลที่สำรวจออกมาว่าสนับสนุนให้ปรับครม.มีผลในการตัดสินใจหรือไม่ นายกฯ กล่าวย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า "โพลบอกว่าต้องปรับใคร" โดยผู้สื่อข่าวกล่าวว่า "ตามโพลระบุว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ " จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เขาทำอะไรผิด เพราะว่าเขาเป็นทหารต้องเอาออก หรือไม่มีผลงาน หรืออย่างไร ผู้สื่อข่าว กล่าวตอบว่า อาจเป็นเพราะอยู่กระทรวงพาณิชย์ โดยนายกฯ กล่าวตอบว่า ทุกคนไปมองว่าเศรษฐกิจมันแย่ แต่ไม่ฟังว่าแย่เพราะอะไร เมื่อถึงเวลานั้นเศรษฐกิจก็ต้องโดนทั้งหมด ตนขอถามว่าวันนี้ พล.อ.ฉัตรชัย ไปค้าขายอะไรหรือไม่ ขณะนี้ก็บินไปประเทศแอฟริกา นั่งไปกว่า 20 ชั่วโมง ยังไม่ได้กลับ รู้กันบ้างหรือไม่ว่าเขาทำงานกันอย่างไร มีใครอยากบินไปแอฟริกาเป็นเวลานานๆ หรือไม่ ที่ผ่านมาเขาทำงานไปขายของเพิ่มขึ้นตั้งเท่าไหร่ ทั้งผลไม้ ที่ขายให้กับญี่ปุ่น หรืออะไรต่างๆ ต้องดูตรงนั้น ดูที่งาน ไม่ใช่บอกว่าเขาไม่สนใจ มีแต่คนไทยที่ไม่ให้เกียรติคนของตนเอง แล้วมาตีกันเอง ให้ที่แย่อยู่แล้วแย่กว่าเดิม

ส่วนจากผลสำรวจพบว่า มี 3 กระทรวงที่ไม่น่าพอใจ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถามว่า “สำรวจจากใคร กลุ่มไหน อาชีพอะไร ถ้าแตกต่างกันผลสำรวจก็แตกต่างกัน คำตอบก็จะไปเหมือนกัน ต้องถามว่าสำรวจคนทุกกลุ่มหรือไม่ แต่ตนก็รับฟัง ขณะเดียวกันก็รู้ว่าคณะรัฐมนตรีแต่ละคนทำงานกันอย่างไร”

เมื่อถามย้ำว่า ห้วงเวลานี้สมควรที่จะปรับครม.แล้วหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า “เมื่อใกล้ครบปีก็ต้องดูก่อนว่าสมควรหรือยัง แต่ไม่ใช่ว่าปรับหรือไม่ปรับ เพื่อให้เศรษฐกิจดีขึ้น ผมว่าเป็นความรู้สึกมากกว่า”

ส่วน“หากปรับครม. จะปรับเฉพาะทีมเศรษฐกิจหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ”ปรับทั้งทีมนั่นแหละ ผมจะดูของผมเอง ทำไมต้องเน้นเศรษฐกิจอย่างเดียว“ ผู้สื่อข่าวถามว่าจะปรับใหญ่หรือปรับเล็ก นายกฯ กล่าวว่า การปรับครม.ต้องมีการปรับเปลี่ยนหมุนเวียน ดูทุกเหตุผลทั้งสุขภาพ อายุ ยืนยันว่าที่ผ่านมาทุกคนทำงานมาตลอด และเป็นการทำงานในช่วงที่ยากลำบาก ทุกคนเหนื่อย อย่าไปกดดันกันมากนัก”

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะปรับครม.ในส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีที่เป็นทหารออก แล้วนำเอามืออาชีพมาทำงานหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ทำไม ใครที่เป็นมืออาชีพ ที่ผ่านมามืออาชีพทำมาตั้งนานแล้ว แล้วได้อะไรขึ้นมาบ้าง ทหารมันโง่นักหรือไง วันนี้ต้องยอมรับว่าทหารเข้ามาต้องเข้ามา ทหารไม่ได้โง่นักหรอก การทำงานที่ผ่านมาเขาก็ทำกันแบบนี้ ข้าราชการเขาก็ทำงาน ไปถามนักการเมืองด้วยว่าทำกันหรือเปล่า วันนี้สั่งงานทุกเม็ด แต่อยู่ที่ข้าราชการทำได้แค่ไหน ไม่ใช่อยู่ที่ใครเข้ามามีฝีมือหรือไม่มีฝีมือ ผมไม่เชื่อตรงนั้น เพราะคิดว่าไม่ต่างกัน ไม่มีอะไรต่างกัน ใครเข้ามาใหม่ต้องทำแบบนี้ เพียงแต่วันนี้กระแสการตอบรับประชาชนก็เขียนกันเข้าไป ก็เสียกันทุกคน วันหน้าก็เสียกันอยู่แล้ว ไม่มีอะไรดีสักอย่าง วันหน้าก็ต้องเตรียมรับสถานการณ์ ที่มันแย่แล้วกัน”

ส่วนการปรับครม.จะมีความชัดเจนได้เมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวย้อนถามอีกว่า อยากเปลี่ยนใช่หรือไม่ อย่างนั้นก็ไปเลือกตั้งเข้ามาไหม ใครเขาอยากจะมาทำ อยากจะรู้ ไม่มีใครเขาอยากมาหรอก

“จะชัดเจนเมื่อไหร่ ก็เมื่อครบ 1 ปี นี่หนึ่งปีแล้วหรือยัง หรืออาจจะเร็วกว่านั้น” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า 1 ปีที่ผ่านมา มองว่าการทำงานพัฒนาไปเยอะหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าพัฒนาไม่เยอะคงไม่เดินหน้ามาขนาดนี้ วันนี้ทุกคนทำงานกัน ที่ผ่านไม่มีใครไปไล่ในเรื่องการทำงานเท่านี้ ทำกันขนาดนี้ยังได้แค่นี้เลย ถามว่าถ้าสถานการณ์เป็นแบบเดิม สิ่งต่าง ๆ ที่แก้จะเป็นแบบนี้หรือไม่ จะดีขึ้นหรือไม่ ส่วนเกรดจะดีขึ้นหรือไม่ไม่รู้ แต่ได้ทำ เมื่อก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำเลย นี่คือความแตกต่าง วันนี้ลืมกันไปหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นมา เอาแต่อยากได้ อยากให้เร็ว ถามว่าเศรษฐกิจไม่ดีเพราะอะไร เพราะบริหารไม่เป็นหรือเพราะขายของไม่ได้ ซึ่งเศรษฐกิจโลกก็เป็นส่วนหนึ่ง อย่าไปโทษเขามาก ต้องโทษตัวเอง ไปโทษคนบริหารเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ว่าเก่ง ๆ วันนี้ที่แย่เพราะอะไร ทั้งปัจจัยภายนอก ภายใน โรงงานต่างๆ ที่เริ่มล้าสมัย หากินกันมากี่ปี การเมืองเคยมาดูกันหรือไม่ เคยปรับโครงสร้างอะไรให้เข้มแข็งบ้าง หรือดูแลเฉพาะที่อยากจะดู นี่แหละที่ล้มเหลว ขายของกันแบบเดิมๆ จะสู้เขาได้ไหม

ต่อข้อถามที่ว่าที่นายกฯคิดว่าเศรษฐกิจล้มเหลว แล้วมองว่าใครเหมาะสมที่จะมาทำหน้าที่ตรงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ที่คน ใครก็ได้

ส่วนที่มีชื่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษาคสช.ด้านเศรษฐกิจ นายกฯ กล่าวว่า “ก็มี แต่ตนไม่เคยพูดถึง สื่อไปเขียนกันเองทั้งนั้น แล้วนอกจากนี้มีใครคนอื่นอีกหรือไม่ เสนอมาสิ” จากนั้น สื่อกล่าวว่า คนที่มีชื่อดังตอนนี้คือ นายสมคิด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “อ๋อเหรอ นี่ไปรับทางโน้นเขามาหรือเปล่า ถ้าเปล่าก็เฉย ๆ ผมจะตั้งของผมเอง”

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ที่จะให้นายสมคิด เข้ามา เพราะต้องการเรียกความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์โมโหว่า “เชื่อมั่นผมนี่ เพราะผมเป็นคนทำ ทำไมต้องเชื่อมั่นคนโน้น คนนี้ ผมเป็นหัวหน้า ผมเป็นคนรับผิดชอบ ผมเป็นคนสั่งเขาทำ ถ้าไม่เชื่อมั่นใครเลย แสดงว่าไม่เชื่อผมด้วย และถ้าไม่เชื่อผม ผมก็จะทำแบบนี้”

ต่อข้อถามที่ว่า การปรับครม.ครั้งนี้จะไม่มีข้อจำกัดต้องเป็นคนกลุ่มการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งใช่หรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวเสียงดังขึ้นอีกครั้งว่า “ไม่เกี่ยว ไม่สนใจเรื่องนี้ คนที่เป็นนักการเมืองอย่าเพิ่งเข้ามาตอนนี้ ชัดเจน อย่าไปเขียนกันให้เลอะเทอะ เวลาผมทักทายคนก็ทัก

결과 (한국어) 1:

นายกฯประยุทธ์" รับเตรียมปรับครม.เพื่อความเหมาะสม หลังบริหารครบ 1 ปี ลั่นไม่เอานักการเมืองร่วมรัฐบาล27 ก.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การปรับครม.จะไม่ทำตามกระแสกดดัน และไม่มีใครสามารถมากดดันตนได้ จะทำตามวิจารณญาณของตนเอง "각료 회의 조정 기간이 때 적절 한 경우 다음 단계를 한 단계 연속 해야 하지만 그들은 죄가 되지 않습니다 또는 우리 사회 원칙 사용 하는 어떤 사회가 어느 정도로 쓰일 수 있습니다, 때문에 내가 들어, 때문에 괜찮을 해야 합니다" 총리는 말했다.ผู้สื่อข่าวถามว่าผลโพลที่สำรวจออกมาว่าสนับสนุนให้ปรับครม.มีผลในการตัดสินใจหรือไม่ นายกฯ กล่าวย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า "โพลบอกว่าต้องปรับใคร" โดยผู้สื่อข่าวกล่าวว่า "ตามโพลระบุว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ " จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เขาทำอะไรผิด เพราะว่าเขาเป็นทหารต้องเอาออก หรือไม่มีผลงาน หรืออย่างไร ผู้สื่อข่าว กล่าวตอบว่า อาจเป็นเพราะอยู่กระทรวงพาณิชย์ โดยนายกฯ กล่าวตอบว่า ทุกคนไปมองว่าเศรษฐกิจมันแย่ แต่ไม่ฟังว่าแย่เพราะอะไร เมื่อถึงเวลานั้นเศรษฐกิจก็ต้องโดนทั้งหมด ตนขอถามว่าวันนี้ พล.อ.ฉัตรชัย ไปค้าขายอะไรหรือไม่ ขณะนี้ก็บินไปประเทศแอฟริกา นั่งไปกว่า 20 ชั่วโมง ยังไม่ได้กลับ รู้กันบ้างหรือไม่ว่าเขาทำงานกันอย่างไร มีใครอยากบินไปแอฟริกาเป็นเวลานานๆ หรือไม่ ที่ผ่านมาเขาทำงานไปขายของเพิ่มขึ้นตั้งเท่าไหร่ ทั้งผลไม้ ที่ขายให้กับญี่ปุ่น หรืออะไรต่างๆ ต้องดูตรงนั้น ดูที่งาน ไม่ใช่บอกว่าเขาไม่สนใจ มีแต่คนไทยที่ไม่ให้เกียรติคนของตนเอง แล้วมาตีกันเอง ให้ที่แย่อยู่แล้วแย่กว่าเดิม ส่วนจากผลสำรวจพบว่า มี 3 กระทรวงที่ไม่น่าพอใจ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถามว่า “สำรวจจากใคร กลุ่มไหน อาชีพอะไร ถ้าแตกต่างกันผลสำรวจก็แตกต่างกัน คำตอบก็จะไปเหมือนกัน ต้องถามว่าสำรวจคนทุกกลุ่มหรือไม่ แต่ตนก็รับฟัง ขณะเดียวกันก็รู้ว่าคณะรัฐมนตรีแต่ละคนทำงานกันอย่างไร” เมื่อถามย้ำว่า ห้วงเวลานี้สมควรที่จะปรับครม.แล้วหรือยัง นายกฯ กล่าวว่า “เมื่อใกล้ครบปีก็ต้องดูก่อนว่าสมควรหรือยัง แต่ไม่ใช่ว่าปรับหรือไม่ปรับ เพื่อให้เศรษฐกิจดีขึ้น ผมว่าเป็นความรู้สึกมากกว่า” ส่วน“หากปรับครม. จะปรับเฉพาะทีมเศรษฐกิจหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ”ปรับทั้งทีมนั่นแหละ ผมจะดูของผมเอง ทำไมต้องเน้นเศรษฐกิจอย่างเดียว“ ผู้สื่อข่าวถามว่าจะปรับใหญ่หรือปรับเล็ก นายกฯ กล่าวว่า การปรับครม.ต้องมีการปรับเปลี่ยนหมุนเวียน ดูทุกเหตุผลทั้งสุขภาพ อายุ ยืนยันว่าที่ผ่านมาทุกคนทำงานมาตลอด และเป็นการทำงานในช่วงที่ยากลำบาก ทุกคนเหนื่อย อย่าไปกดดันกันมากนัก”
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะปรับครม.ในส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีที่เป็นทหารออก แล้วนำเอามืออาชีพมาทำงานหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ทำไม ใครที่เป็นมืออาชีพ ที่ผ่านมามืออาชีพทำมาตั้งนานแล้ว แล้วได้อะไรขึ้นมาบ้าง ทหารมันโง่นักหรือไง วันนี้ต้องยอมรับว่าทหารเข้ามาต้องเข้ามา ทหารไม่ได้โง่นักหรอก การทำงานที่ผ่านมาเขาก็ทำกันแบบนี้ ข้าราชการเขาก็ทำงาน ไปถามนักการเมืองด้วยว่าทำกันหรือเปล่า วันนี้สั่งงานทุกเม็ด แต่อยู่ที่ข้าราชการทำได้แค่ไหน ไม่ใช่อยู่ที่ใครเข้ามามีฝีมือหรือไม่มีฝีมือ ผมไม่เชื่อตรงนั้น เพราะคิดว่าไม่ต่างกัน ไม่มีอะไรต่างกัน ใครเข้ามาใหม่ต้องทำแบบนี้ เพียงแต่วันนี้กระแสการตอบรับประชาชนก็เขียนกันเข้าไป ก็เสียกันทุกคน วันหน้าก็เสียกันอยู่แล้ว ไม่มีอะไรดีสักอย่าง วันหน้าก็ต้องเตรียมรับสถานการณ์ ที่มันแย่แล้วกัน”

ส่วนการปรับครม.จะมีความชัดเจนได้เมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวย้อนถามอีกว่า อยากเปลี่ยนใช่หรือไม่ อย่างนั้นก็ไปเลือกตั้งเข้ามาไหม ใครเขาอยากจะมาทำ อยากจะรู้ ไม่มีใครเขาอยากมาหรอก

“จะชัดเจนเมื่อไหร่ ก็เมื่อครบ 1 ปี นี่หนึ่งปีแล้วหรือยัง หรืออาจจะเร็วกว่านั้น” นายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า 1 ปีที่ผ่านมา มองว่าการทำงานพัฒนาไปเยอะหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าพัฒนาไม่เยอะคงไม่เดินหน้ามาขนาดนี้ วันนี้ทุกคนทำงานกัน ที่ผ่านไม่มีใครไปไล่ในเรื่องการทำงานเท่านี้ ทำกันขนาดนี้ยังได้แค่นี้เลย ถามว่าถ้าสถานการณ์เป็นแบบเดิม สิ่งต่าง ๆ ที่แก้จะเป็นแบบนี้หรือไม่ จะดีขึ้นหรือไม่ ส่วนเกรดจะดีขึ้นหรือไม่ไม่รู้ แต่ได้ทำ เมื่อก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำเลย นี่คือความแตกต่าง วันนี้ลืมกันไปหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นมา เอาแต่อยากได้ อยากให้เร็ว ถามว่าเศรษฐกิจไม่ดีเพราะอะไร เพราะบริหารไม่เป็นหรือเพราะขายของไม่ได้ ซึ่งเศรษฐกิจโลกก็เป็นส่วนหนึ่ง อย่าไปโทษเขามาก ต้องโทษตัวเอง ไปโทษคนบริหารเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ว่าเก่ง ๆ วันนี้ที่แย่เพราะอะไร ทั้งปัจจัยภายนอก ภายใน โรงงานต่างๆ ที่เริ่มล้าสมัย หากินกันมากี่ปี การเมืองเคยมาดูกันหรือไม่ เคยปรับโครงสร้างอะไรให้เข้มแข็งบ้าง หรือดูแลเฉพาะที่อยากจะดู นี่แหละที่ล้มเหลว ขายของกันแบบเดิมๆ จะสู้เขาได้ไหม

ต่อข้อถามที่ว่าที่นายกฯคิดว่าเศรษฐกิจล้มเหลว แล้วมองว่าใครเหมาะสมที่จะมาทำหน้าที่ตรงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ที่คน ใครก็ได้

ส่วนที่มีชื่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษาคสช.ด้านเศรษฐกิจ นายกฯ กล่าวว่า “ก็มี แต่ตนไม่เคยพูดถึง สื่อไปเขียนกันเองทั้งนั้น แล้วนอกจากนี้มีใครคนอื่นอีกหรือไม่ เสนอมาสิ” จากนั้น สื่อกล่าวว่า คนที่มีชื่อดังตอนนี้คือ นายสมคิด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “อ๋อเหรอ นี่ไปรับทางโน้นเขามาหรือเปล่า ถ้าเปล่าก็เฉย ๆ ผมจะตั้งของผมเอง”

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ที่จะให้นายสมคิด เข้ามา เพราะต้องการเรียกความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์โมโหว่า “เชื่อมั่นผมนี่ เพราะผมเป็นคนทำ ทำไมต้องเชื่อมั่นคนโน้น คนนี้ ผมเป็นหัวหน้า ผมเป็นคนรับผิดชอบ ผมเป็นคนสั่งเขาทำ ถ้าไม่เชื่อมั่นใครเลย แสดงว่าไม่เชื่อผมด้วย และถ้าไม่เชื่อผม ผมก็จะทำแบบนี้”

ต่อข้อถามที่ว่า การปรับครม.ครั้งนี้จะไม่มีข้อจำกัดต้องเป็นคนกลุ่มการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งใช่หรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวเสียงดังขึ้นอีกครั้งว่า “ไม่เกี่ยว ไม่สนใจเรื่องนี้ คนที่เป็นนักการเมืองอย่าเพิ่งเข้ามาตอนนี้ ชัดเจน อย่าไปเขียนกันให้เลอะเทอะ เวลาผมทักทายคนก็ทัก

결과 (한국어) 2:

총리 Prayut는 "오른쪽에있는 캐비닛을 준비 얻을. 정치 연합의 출시 후 1 년했다 7월 27일 (58) 특파원이 보도했다. . 세대 .. 이사회를 유지 국립 평화의 Prayut 찬 - 오 - 차 총리와 헤드 (NHC는.) 장관의 현재위원회 (캐비닛) 캐비닛 압력의 흐름을 따라하지 않을 것이라는 설명합니다. 그리고 아무도 그들의 압력에 올 수 없습니다. 자신의 판단을 따르려면 시간이되면, "캐비닛 조정합니다. 언제 멀리 기간 동안 일해야합니까. 계속하려면 약간의 조정이 있어야합니다 그러나 죄를 정당화하지 않습니다. 아니면 뭔가 다른 때문에 우리 사회의 원칙과 함께 작동합니다. 사회는 내가 듣고되지 않은, 인스턴트하지 않을 수 있습니다, "국무 총리는 말했다 설문 조사 결과, 여론 조사 잘 캐비닛에 대한 지원이 총리가 기자가 질문했다 여부를 결정하는 것을 보여 것을 요청했다. "설문 조사는 잘 하나라고,"기자가 말했다. "상공 존로드 리 게스의 장관에 대한 설문 조사 확인했다. 창 .. Chatchai에 따르면,"다음. 세대는 .. Prayut는 말했다, "그는 아무것도 잘못입니다. 그가 있었기 때문에 병사를 제거해야합니다. 어떤 작품이나 기자는 상무부가, 국무 총리는 경제가 끔찍한 것을보기의 모든 것을 말했다 때문인지 무슨 말을하지 않습니다. 내 인생 그러나 얼마나 나쁜. 이 때, 경제는 모든 맞았다. 나는 거래 여부를 그녀의 오늘. 창 .. Chatchai 물었다. 그는 다시 얻기 위해 20 개 이상의 시간이 걸릴 남아공에 날아 갔다. 나는 그들이 함께 일할 것을 알고있다. 나는 오랫동안 여부를 아프리카에 도착하려면, 그는 일본에 판매되는 과일의 대부분의 판매를 증가했다. 아니면 뭔가 다른 그는 관심이 없었다하지 않는 것이, 봐 저기 봐. 자신의 사람들을 존중하지 않는 태국, 그러나 사람들. 그리고 친절한 친구가 그것보다 이미 더 나쁜 점을 감안 조사의 세 번째가 만족스럽지 것으로 나타났다. . 세대 .. Prayut 다른 경우 하나의 그룹, 직업의 조사 결과는 달랐다 "고 말했다. 대답은 동일합니다. 모든 그룹이 조사 여부를 문의합니다. 그러나 그들은 청력 한편, 내각은 각 하나 ", 작동 방법을 알고 그 물었을 때. 이 시간은 합리적으로 캐비닛을 정당화하거나 총리는 "올해의 마지막에서, 그것은 합리적인 여부로 볼 수 있어야합니다. 하지만 벌금 또는 처벌하지 않습니다. 더 나은 경제에 위해 나는 "보다는 기분이 좋아졌다 "조정 캐비닛. 경제 팀의 여부를 조정하기 위해 국무 총리가 그 팀에 대한 괜찮아요 "고 말했다. 난 내 자신을보고 "기자와 경제에 초점이 크거나 작은 미세 조정 총리가 내각 회전율을 조정해야했다 여부를 물었다. 모든 합리적인 건강, 나이를 참조, 과거에 모두 잘 작동 함을 확인 하였다. 내가 너무 많은 압력을하지 않는 어려운 사람들 중에 일을, " 기자가 물었다. 군대에 장관을 조정합니다. 그리고 전문 취하거나하지 총리는 말했다, "왜 전문 사람. 과거 전문가는 오래 전에해야 할 일. 비트 무슨 일이야 그것은 바보 또는 어떤 군인 오늘, 군인은 그가 올 것으로 받아 들여야한다. 군은 날 바보하지 않았다 최근 작품은 그가이 일을했다. 그는 위원을 작동 질문 정치인들은 그 여부를해야 할 일. 오늘은 모든 정제를 주문 그러나 당국은 그것을 할. 숙련 또는 비 숙련 방문자가되지 않습니다. 나는 거기에 생각하지 않습니다 나는 다른 생각 다른 아무것도 이 작업을 수행 한 새로운 도착. 하지만 오늘, 현재의 응답에 기록됩니다. 그것은 모든 사람의 낭비 내일이 이미 나뉩니다. 아무것도 좋은 문신 내일 나는 상황을 준비해야합니다. 누구는 "끔찍한 말할 캐비닛이 총리에 명확하게 다시 물었을 때 말했다,의. 이 변경? 그리고 그는 선거에 들어갔다. 그가하고 싶었던 것은, 아무도, 그가 알고 싶어 알고 싶어 이 년이, 여기에 첫 번째 년 후에 알 수있는 때 ". 아니면 빨리, "총리는 말했다 기자가 그 개발 작업을 일년 전에 많이 요청 여부 총리가 개발 이렇게 계속하지 않는 경우 말했다. 협력 오늘 모두 아무도이 일에 그들을 통해 간다. 이는 아직 이루어졌다. 동일한 상황이 물건이 방식 여부가 되려면 물었다. 나아지 다? 등급은 더 나은 여부,하지만 난 이전을하지 않았다. 이 차이 오늘에 사라 잊지. 나는 항상 경제가 나쁜 얼마나 빨리 아무것도 때문에, 물어보고 싶은게있다. 관리가되지 그것 때문에입니다. 어느 세계 경제의 일부입니다. 그를 비난하지 마십시오 자신을 비난 어떤 선수는 오늘 컨디션이 알고있는 국가의 경제 관리에 대한 비난합니다. 공장 내에서 외부 요인은 쓸모 시작했다. 함께 사는 몇 년 정치는 그것을보고하거나하지 않았다. 어떻게 재구성하고 강화하는 데 사용됩니다. 또는 만보고 싶어요. 그것은 실패 기존의 판매 그는 나를 싸울 것 국무 총리는 경제가 실패했다고 생각하는지 여부의 질문에. 그런 다음 서비스를 제공 할 자격이 누가 봐. . 세대 .. Prayut하지 사람들을 말했다. 누가이었다 라는 Somkid. Jatusripitak . 자문위원회 경제 총리는 말했다 : "나는 개인적으로 얘기 적이 없다. 미디어 친화적 작성하는 사랑 또한, 누군가가 제안 않는 다른있다 "미디어에서, 사람들이 이름은 바로 지금이다 있다고 말했다 Somkid. 창 .. Prayut가 말했다"아, 그를 얻기 여부를 위해 여기 저기, 기다려. 아니, 괜찮아, 난 내 자신의 설정하며, " 기자는 그에게 물었다. 가. 창 .. Prayut을 경제에 대한 신뢰를 원하거나하지 때문에 Somkid이 올 수 있습니다. 화가 기분이 말했다 "저,이 믿어 내가 일을했기 때문에 이 사람을 신뢰하는 이유는, 나는 지도자였다. 나는 책임 나는 그에게되었다 난 아무도 믿지 않는다 나는 믿을 수 없어 당신은 저를 믿지 않는 경우 나는 "이 작업을 수행 할 질문이 있습니다. 캐비닛은 정당에 한계 수 없습니다 여부 창 Prayut는 목소리가 다시, "그것에 대해 걱정하지 않는다고 말했다. 단지 지금 정치인들은 분명히 잘, 실수 작성하지 마십시오. 내가 인사하면 그들 추가